วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความคิดสู่ความสำเร็จ...นอกกรอบ

สิ่งหนึ่งที่สำคัญก่อนการตัดสินใจทำอะไรก็แล้วแต่ เราต้องรู้จักคิดก่อนทำเสมอ และถ้าความคิดนั้น เป็นความคิดประเภท “ คิดนอกกรอบ ”  ด้วยแล้วจะดีมาก และดูจะเป็นคำฮิตที่มีความหมายไปในทางฉลาดว่า รู้จักพลิกแพลง  รู้จังหวะ โอกาส ไม่ปล่อยให้อะไรเป็นไปตามธรรมชาติ หรือตามกฎเกณฑ์ที่มีการกำหนดกันมาแต่นมนาน คนที่ชอบคิดนอกกรอบ มักจะเป็นคนที่สร้างแนวทางใหม่ๆ หรือวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา และเป็นคนที่คนทั่วไปมองว่า ฉลาดและจะประสบกับความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริงคนที่คิดนอกกรอบ แล้วประสบกับความล้มเหลว คุณว่ามีหรือไม่ คำตอบคือ มี ในชีวิตจริงมิใช่ว่าใครก็ตามที่คิดนอกกรอบแล้วจะประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมด เพราะหลักสำคัญในการ “คิดนอกกรอบ”  ที่คุณต้องรู้ก็คือ คุณต้องรู้ก่อนว่า “ คิดในกรอบ ” คืออะไร “ กรอบหรือกฎเกณฑ์ ” ที่เป็นตัวกำหนดความคิดหรือพฤติกรรมของคุณมีขอบเขตแค่ไหน คนที่ทำอะไร “ นอกกรอบ ” แล้วประสบความสำเร็จก็คือ คนเขียนกรอบหรือคนที่เป็นเจ้าของกรอบ เพราะเขารู้ว่ากรอบที่เขาเขียนหรือเป็นเจ้าของนั้น มีขอบเขตของการกำหนดแค่ไหน สำคัญมากน้อยอย่างไร และข้อกำหนดไหนสามารถนอกกรอบหรือกฎเกณฑ์ได้โดยไม่เกิดความเสียหายต่อสาระ หรือแก่นของธุรกิจ ดังนั้น หากคุณไม่ใช่คนเขียนกรอบหรือเป็นเจ้าของกรอบ มีวิธีเดียวที่คุณจะประสบความสำเร็จในการคิดนอกกรอบก็คือ  “ คุณต้องเข้าใจกรอบอย่างชัดเจน ” เรียกว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญในกรอบประหนึ่งว่า คุณเป็นคนเขียนกรอบหรือกฎเกณฑ์นั้นขึ้นมากับมือ

ที่ดิฉันเขียนถึงเรื่อง “คิดนอกกรอบ” นี้ก็เพราะว่า ในธุรกิจขายตรง MLM เป็นธุรกิจที่มีแนวคิดนอกกรอบ เป็นแนวคิดที่ไม่อยู่ในกรอบของการค้าปลีกค้าส่งแบบทั่วไป ที่แยกกลุ่มระหว่างผู้ผลิต  ค้าปลีกค้าส่ง(พ่อค้าคนกลาง) และผู้บริโภค ออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ในธุรกิจขายตรง โดยเฉพาะขายตรงแบบหลายชั้นหรือที่เรียกกันติดปากว่า MLM เป็นธุรกิจของการรวมศูนย์ เป็นธุรกิจที่เห็นความสำคัญของผู้บริโภค และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เป็นหุ้นส่วนกับผู้ผลิต (ตรงนี้คุณต้องพิจารณาแนวคิด ความเป็นมา และปณิธานของบริษัทที่คุณจะเข้าร่วมธุรกิจ)  จากนั้นจึงเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคที่เป็นหุ้นส่วน  ได้บริโภคสินค้าที่ตนเองมีหุ้นส่วนอยู่ ในราคาหุ้นส่วนหรือราคาสมาชิก และได้รับผลตอบแทนในลักษณะ “หุ้นส่วนผู้บริโภค” นอกจากหุ้นส่วนจะได้รับสิทธิ์ในการบริโภคสินค้าในราคาประหยัดแล้ว  หุ้นส่วนยังมีโอกาส หรือมีช่องทางในการสร้างรายได้ หรือจะเรียกว่าเป็นการเพิ่มหุ้นของตนเองในบริษัทที่เรามีหุ้นส่วนอยู่ก็ได้   

แต่อยากจะบอกก่อนว่าการเพิ่มหุ้นของตนเอง ไม่ใช่การเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าในบริษัทที่เรามีหุ้นส่วนอยู่ เราก็ยังคงบริโภคหรือซื้อสินค้าตามกำลังทรัพย์ หรือเท่าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน และขอย้ำว่า หุ้นส่วนทุกคนควรจะซื้อสินค้าตามกำลังทรัพย์และความจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันก็พอ และเมื่อเป็นหุ้นส่วนแล้ว ดิฉันเชื่ออย่างแเน่นอนค่ะใครๆ ก็อยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น เเล้วอะไรละค่ะที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณยังไม่ประสบความสำเร็จ มาดูกันค่ะว่า ทำไมคุณถึงปล่อยให้ชีวิตของคุณเป็นไปตามยถากรรมอยู่ไหม ยังคอยโทษฟ้า โทษดิน โทษอากาศ โทษชาติกำเนิด โทษเวรกรรมอยู่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ไม่เเปลกค่ะที่คุณยังไม่ประสบพบเจอกับความสำเร็จมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างที่คุณต้องการ เเถมบางคนที่เกิดมามีทุกอย่างพร้อมสรรพ เเต่ก็กลับใช้ชีวิตหลงลืมตัว ประมาท ไม่เคยโทษตัวเองเลยว่าเพราะอะไรถึงไม่ก้าวหน้าสักที บางคนกว่าจะได้พบเจอกับคำว่าประสบความสำเร็จก็เหลือเวลาอยู่บนโลกใบนี้น้อยเหลือเกินไปเเล้ว เเต่บางคนก็ประสบความสำเร็จได้ตอนอายุยังน้อยๆ กันอยู่ อืม! น่าสนใช่ไหมหล่ะค่ะว่า คนอายุน้อยๆ เนี้ยะเขาทำอย่างไรถึงได้ประสบความสำเร็จมั่งคั่ง ร่ำรวย อย่างมหาศาลได้รวดเร็วถึงเพียงนี้

ผู้ที่ประสบความสำเร็จกันรวดเร็ว ก้าวมาเป็นเศรษฐีระดับโลกนั้นเขาได้มีเเนวคิดที่่เเตกต่างออกไปคือ เขาไม่เลือกที่จะเป็นลูกจ้าง เพราะถ้าวันใดเขาป่วยเขาก็ขาดรายได้ เขาไม่ทำงานหนักๆ ไม่ทุ่มเท วันละ 8 ชั่วโมง หรือ มากกว่า เพื่อให้เจ้าของธุรกิจนั้นๆ รวย รวย รวย  เขาไม่ทำงานหนักเพื่อเเลกกับการเพิ่มเงินเดือนขึ้น 1 % หรือ 2 % ต่อปี หรืออาจจะไม่ขึ้นเลยก็เป็นได้ เขาไม่หวังลมๆ เเล้งๆ ว่า สักวันเขาจะได้นั่งเก้าอี้กรรมการบริหาร เพราะเขาอาจจะได้ยินประโยคนี้เข้าสักวัน “ คุณเป็นคนเก่งนะ ทุกคนยอมรับ เเต่คงต้องรอตามลำดับขั้น ตามอาวุโส ” 10  20 หรือ 30 ปี กว่าที่เขาจะได้เงินเดือนมหาศาลระดับกรรมการบริหาร เขากลับมองหาวิธีการเป็นเจ้าของธุรกิจเสียเอง การมองหาธุรกิจที่สามารถทำเงินให้เขาได้ถึงเเม้เขาจะไม่ทำงาน เขาป่วยเขาก็ยังมีรายได้ เขายอมทำงานหนักเพียงไม่กี่ปีเพื่อเเลกกับรายได้ที่เขาจะได้ตลอดชีวิต เเถมยังเป็นมรดกตกทอดยังลูกหลาน เหลน โหลน ได้อีก ธุรกิจนั้นคือ ธุรกิจเครือข่าย MLM หรือ MLM Online ก็ทำได้เช่นกัน

พอรู้แบบนี้แล้วเป็นอย่างไรบ้างค่ะ เเนวความคิดของเศรษฐี การศึกษาถึงวิธีการเเนวความคิด(นอกกรอบ) มองหาวิธีการเปลี่ยนเเปลงชีวิตของคุณเพื่อเปลี่ยนไปในทางที่ดีขี้น เพิ่มทักษะใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองสม่ำเสมอ อย่าลืมนะค่ะว่า เราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าๆ กัน ดังนั้น คุณควรจัดสรรเวลาให้ถูก ใช้เวลาของคุณให้คุ้มค่า ให้ความสำคัญกับอนาคตตัวเองเป็น เเละเปลี่ยนเเปลงตัวเองให้มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ร่ำรวยให้กับตัวเองได้ในที่สุด ดิฉันขอสนับสนุนให้นักธุรกิจ MLM ทุกคนค่ะ ส่วนใครสนใจอยากรู้เรื่องราววิธีการทำธุรกิจที่ดีเกี่ยวกับ MLM นี้...ติดต่อกับดิฉันได้ตามเบอร์ด้านข้างนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น